แต่งงานแล้วควร มีบ้านเป็นของตัวเอง หรืออยู่บ้านพ่อแม่

แต่งงาน มีบ้านเป็นของตัวเอง

คำถามนี้เหมือนเป็นคำถามโลกแตก ที่คู่แต่งงานใหม่ทุกคู่ต้องครุ่นคิด ว่าหลังจากแต่งงานกันแล้วจะอยู่บ้านใคร หรือ ควรแยกออกมา มีบ้านเป็นของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงประเด็นต่างๆกันอย่างเปิดอก แต่เราจะไม่ตัดสินว่าทางเลือกไหนดีกว่ากัน เพราะแต่ละคนก็มีความพร้อม และสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ถ้าพร้อมแล้วเตรียมหาเครื่องดื่นเย็นๆมาสักแก้ว แล้วเริ่มกันเลยครับ

ไม่ว่าใครก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง

อยู่บ้านทั้งที บางทีคนเราก็อยากทำอะไรตามอำเภอใจ อยากนอนเอกเขนก กินขนม ดูหนัง ฟังเพลง ใส่ชุดนอน หรือแก้ผ้าเดินโทงๆในบ้าน แต่ทั้งหมดนี้คงทำไม่ได้ หากเราอยู่อาศัยในบ้านเดียวกันกับพ่อแม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่รู้สึกเป็นตัวเอง หรืออิสระสุดๆ เวลาที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของอีกฝ่าย หรือแม้แต่ฝ่ายที่เป็นเจ้าของบ้านเอง จะทำอะไรก็ยังต้องเกรงใจพ่อแม่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน เพราะ พ่อแม่มี Hierachy หรือลำดับการปกครองสูงสุดในบ้าน  ถ้าเราอยากเป็นผู้คุมกฏในบ้าน เราก็ต้อง มีบ้านเป็นของตัวเอง – My House My Rule

เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

วันหนึ่งคนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เราใช้เวลาไม่เหมือนกัน ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณต้องทำงานกลับมาบ้านดึกๆดื่นๆ อยากจะนั่งพัก เปิดทีวีดูในห้องนั่งเล่น เดินเข้าๆออกๆห้องน้ำ เปิดปิดประตูเสียงดัง ซึ่งก็คงจะรบกวนพ่อแม่ที่ขึ้นนอนไปแล้ว ในทางกลับกัน วันหยุดคุณอยากจะนอนตื่นสายๆบ้าง แต่พ่อแม่ตื่นแต่เช้าลงมาทำกับข้าวในครัวช้งเช้ง คงไม่ดีแน่ๆ ต่างฝ่ายต่างรบกวนกันและกัน โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะ ต่างคนต่างวัย จึงเป็นธรรมดาที่จังหวะชีวิตจะไม่เหมือนกัน 

เรื่องของงานบ้าน

สำหรับบ้านไหนที่มีแม่บ้านรับผิดชอบงานบ้านต่างๆให้อยู่แล้ว ประเด็นนี้ก็จะไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับบ้านไหนที่ต้องทำงานบ้านกันเองแล้วหละก็ เรื่องนี้จะเป็นปัญหาแน่นอน เพราะ งานบ้านเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ถึงแม้ว่าทุกคนอาจจะแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจนแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าความขัดแย้งก็ยังเกิดขึ้นได้ เช่น สะใภ้ล้างจานเสร็จ แต่พอคุณแม่สามีมาเห็นอาจบอกว่าล้างไม่สะอาด แล้วยิ่งถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีครอบครัวของพี่น้องอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีก ทีนี้หละจบไม่สวยแน่ครับ อาจจะมีบางคนไม่เคยทำงานบ้านเลย กินข้าวเสร็จก็ทิ้งไว้อย่างนั้น คนที่ทำก็ทำอยู่นั่น เป็นอย่างนี้ทุกวันๆ เป็นใครก็คงทนไม่ไหว ต้องมีระเบิดลงแน่ๆ  

ผลกระทบต่อจิตใจ

ขึ้นชื่อว่า “บ้าน” แล้ว ย่อมมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตเรามากกว่าแค่ที่พักผ่อน นอนหลับ ใครที่ได้ มีบ้านเป็นของตัวเอง แล้วจะเข้าใจดีถึงความรู้สึกภาคภูมิใจ ความเป็นเจ้าของ อยากจะดูแลรักษาให้บ้านน่าอยู่ อยากแต่งบ้านแบบนั้น แบบนี้ ถึงจะเหนื่อยยากสักแค่ไหน พอได้กลับมาบ้านที่เป็นของเราเอง ก็รู้สึกชื่นใจทุกครั้ง และไม่มีฝ่ายไหนที่ต้องรู้สึกอึดอัด หรือต้องคอยกังวล เป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะไม่มีความสุข

แล้วถ้ามีลูกหละ

เวลาเห็นบ้านไหนที่หลานๆ ได้อยู่กับปู่ย่าตายาย ดูแล้วเป็นครอบครัวใหญ่ที่น่ารักอบอุ่น แต่ในแง่ของการอบรมเลี้ยงดูเด็กแล้ว อาจจะเป็นผลเสียได้ เพราะ พ่อแม่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง แต่ปู่ย่าตายาย อยากเลี้ยงหลานอีกแบบหนึ่ง เช่น เวลากินข้าว พ่อแม่อยากฝึกให้ลูกกินข้าวเอง เพื่อพัฒนาประสาทสัมผัส และสมอง ปู่ย่าตายายมาเห็นหลานงกๆเงิ่นๆ ตักข้าวไม่เข้าปาก หกเลอะเทอะ ก็จัดการป้อนซะเรียบร้อย สุดท้ายปัญหาจะตกอยู่ที่ลูกครับ เพราะ เด็กๆจำเป็นต้องได้รับการฝึกวินัย อย่างสม่ำเสมอ ต้องเรียนรู้ว่าอะไรควรทำ หรือไม่ควรทำ ถ้าการเลี้ยงดูของแต่ละคนไม่ไปในทิศทางเดียวกัน เด็กก็จะสับสน เวลางอแงก็จะวิ่งไปหาคนที่คอยตามใจ ทำให้เสียนิสัยครับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้คนเป็นพ่อแม่ ต้องพูดคุยอธิบายให้ปู่ย่าตายายได้เข้าใจ 

ข้อดีอย่างหนึ่งของการอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ที่มีปู่ย่าตายายอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะสำหรับคู่ที่ทั้งสามี และ ภรรยา ต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ เราก็สามารถไว้ใจฝากลูกให้ปู่ย่าตายาย ช่วยเลี้ยงได้ ไม่ต้องไปฝาก nursery ให้เป็นห่วง

การแยกไปอยู่เอง ถือเป็นการไม่กตัญญูหรือเปล่า

ผมเคยอ่านกระทู้หนึ่งใน pantip เรื่องของเรื่องคือฝ่ายหญิงเล่าว่า เคยคุยกับแฟนถึงเรื่องการแยกครอบครัวถ้าแต่งงานกัน แต่ฝ่ายชายกลับไม่พอใจ และยืนกรานที่จะไม่ย้ายไปไหน ด้วยเหตุผลว่าเขาเกิดที่นี่ สบายใจที่จะอยู่ที่นี่ เขาจะไม่ทิ้งครอบครัวไปไหนเด็ดขาด เพราะมันคือการอกตัญญู และเลว นรกมาก ???

เรื่องนี้ผมมีความเห็นว่า การอยู่อาศัยกับพ่อแม่ และ ความกตัญญู เป็นคนละเรื่องกันเลยครับ “กตัญญู” คือ ความรู้คุณ ระลึกนึกถึง สิ่งที่ผู้อื่นกระทำแล้วแก่เราอย่างซาบซึ้ง ส่วนคำว่า “กตเวที” คือ การตอบแทนคุณ ถ้าการที่คุณเพียงแค่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ แต่ไม่ได้ดูแล ตอบแทนบุญคุณท่านเลย แบบนี้จะเรียกว่ากตัญญูกตเวที ไหมครับ กลับกันถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับพ่อแม่ แต่คอยโทรหา สอบถามสารทุกข์สุกดิบ วันหยุดก็มาเยี่ยม พาไปทานข้าว หรือพาไปเที่ยว สลับกันไประหว่างบ้านทั้ง 2 ฝ่าย ยามพ่อแม่เจ็บป่วยก็เป็นธุระพาไปหาหมออย่างเต็มอกเต็มใจ ผมมองว่าอย่างหลังฟังดูใกล้เคียงกับคำว่า กตัญญู มากกว่าเสียอีก และมันยังแฟร์กับทั้ง 2 ฝ่ายด้วย  

การเงิน การลงทุน

ในแง่ของการเงินนั้น ความพร้อมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าทางออกมีอยู่เสมอ เราต้องยึดหลัก “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” แต่งงานกันใหม่ๆ กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว คุณอาจมองบ้านขนาดเล็ก/ทาวน์โฮม หรือแม้แต่คอนโด เท่าที่กำลังคุณไหว เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “บ้าน” ผมเชื่อว่าขนาดความสุขก็ไม่ได้ลดลงไปเลย ต่อไปถ้าจำเป็นค่อยมองหาช่องทางขยับขยาย ก็ยังไม่สาย

ส่วนเรื่องการลงทุนนั้น ผมมีมุมมองว่า บ้านที่คุณอยู่อาศัยนั้นไม่ใช่การลงทุน พูดตามตรงคือมันไม่ใช่ “ทรัพย์สิน” แต่เป็น “หนี้สิน” เพราะบ้านที่เราอยู่เอง ไม่ได้ทำให้ก่อเกิดรายได้แก่เรา แต่กลับกันเราต้องใช้เงินเพื่อผ่อนกับธนาคารไปอีก 20-30 ปี และมีดอกเบี้ยอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากคุณต้องการที่จะขายบ้าน ในระยะยาวแล้วอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าสูงขึ้น หรืออย่างน้อย คุณก็สามารถมอบบ้านให้เป็นมรดกตกทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้

โดยสรุปแล้ว บทความนี้เพียงต้องการที่จะชี้ให้เห็นถึงประเด็นต่างๆที่ควรนำมาพูดคุยเปิดอกกันระหว่างคู่ที่กำลังจะแต่งงาน สร้างครอบครัวด้วยกัน หรือ แม้แต่คู่ที่แต่งงานแล้วก็ตาม เพราะบ้านไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่เป็นที่พักใจ และเติมพลังชีวิตให้กับเรา ส่วนทางเลือกไหนจะตอบโจทย์ของคุณมากกว่า คุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินครับ

อัสสกาญจน์ เพลส ศรีนครินทร์

คอนโดใหม่ สูง 36 ชั้น แยกพัฒนาการถนนศรีนครินทร์ ใก้ลรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเพียง 250 เมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

SHARE :

Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Kittituch Sutiranat

Kittituch Sutiranat

สถาปนิกที่อยากมีบ้านหลังน้อยริมทะเลสาบ

บทความน่าสนใจ

บ้าน2ชั้น

บ้าน2ชั้น North Bondi House

บ้าน2ชั้น facade สีขาว สะดุดตา ในย่าน North Bondi ของประเทศออสเตรเลีย ในความเรียบเท่นั้น แฝงไปด้วยความน่าสนใจมากมาย จะน่าอยู่ขนาดไหน ไปชมกันเลย!

รวมพิกัดโซฟาสไตล์น่ารัก ราคาน่าโดนใน Shopee

สิ่งหนึ่งที่แต่ละห้อง แต่ละบ้าน ต้องมีไว้เพื่อสร้างมุมพักผ่อนสบายๆเลยก็คือ โซฟา ซึ่งก็มีแบบให้เลือกหลากหลายมากๆ รวบรวมโซฟาสไตล์ มินิมอล มาให้เพื่อนๆเลือกกันแบบจุใจไปเลย ทั้งดีไซน์สวย นั่งสบาย และยังเพิ่มความบรรยากาศการพักผ่อนให้กับห้องของเราอีกด้วยน้าาา

บ้านญี่ปุ่น Japanese House

สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียการสร้างบ้านสไตล์ญี่ปุ่นหรือคาเฟ่หลังเล็กๆ บ้านสวยทั่วโลก ขอนำเสนอ japenese house บ้านสไตล์ญี่ปุ่น หลังเล็ก ๆ ชั้นเดียว ที่ภายในนั้นได้แบ่งพื้นที่การใช้งานได้คุ้มค่าทุกตารางนิ้ว

ค่าก่อสร้าง บ้าน

ค่าก่อสร้าง ที่คุณต้องจ่าย แพงไปหรือเปล่า

อย่าให้การสร้างบ้านในฝัน กลายเป็นฝันร้าย เพราะถูกผู้รับเหมาเอาเปรียบ ปัญหานี้ป้องกันได้ เพียงแค่คุณรู้ว่าต้องดูอะไรบ้าง ในใบเสนอราคา ค่าก่อสร้าง

บ้านทรงจั่ว

บ้านและสวน ที่น่าพักผ่อน Summer House @Bjäre

บ้านทรงจั่ว และสวนตรงกลางที่ดูน่าพักผ่อนหลังนี้ มาพร้อมกับพระเอกรูปหล่อเป็นต้นเชอร์รี่ ที่แผ่กิ่งก้านสวยงาม ชวนมอง ข้างในจะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่อีก ไปชมพร้อมๆกันเลยครับ

บ้านสวน ในวันพักผ่อน Villa Sterkenburg

เมื่อความเหนื่อยล้าจากการทำงานมันมีมากขึ้นเรื่อยๆ คงจะดีไม่น้อยหากได้ไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ความสงบ ที่เปรียบสเหมือนการได้ชาร์จแบตเพิ่มพลังงาน และหาความสุขให้กับตัวเอง